ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "แอนดรอยด์" กับขนมหวานที่คุณอาจไม่รู้จัก!

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "แอนดรอยด์" กับขนมหวานที่คุณอาจไม่รู้จัก!

History of Android

ณ เวลานี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ “แอนดรอยด์” ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก! แต่กว่าจะมาเป็นแอนดรอยด์รุ่นที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน เรามาย้อนกลับไปเมื่อ 23 กันยายนปี 2008 ซึ่งเป็นวันกำเนิดครั้งแรกของ Android 1.0 (ไม่มีชื่อเล่น) จนกระทั่ง 5 ปีต่อมาแอนดรอยด์สารพัดขนมที่คุณอาจไม่เคยรู้ก็ออกมาโลดแล่นอยู่เต็มไปหมด แต่จะมีเวอร์ชั่นไหนน่าหม่ำบ้าง ขออาสาพาชิม เอ้ย! พาชม

Android 1.5 Cupcake

Android 1.5 Cupcake

ถือเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่นแรกที่มีการตั้งชื่อเล่นเป็นขนม และเปิดตัวระบบปฏิบัติการอย่างเป็นทางการหลังจากการทดลองมานานในเวอร์ชั่น 1.0 เมื่อเดือนกันยายนปี 2008 และ 1.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2009 โดย Android Cupcake เปิดตัวในวันที่ 30 เมษายนปี 2009

คัพเค้กเป็นขนมเค้กประเภทหนึ่งซึ่งก็ตามชื่อเลยครับ มันอยู่ในถ้วย ส่วนใหญ่จะเป็นแป้งเค้กนิ่มๆ ประดับหน้าด้วยครีมแข็งรสหวาน (เรียกว่าหวานเจี๊ยบเลยล่ะ) แต่ก็มีคัพเค้กอยู่หลายแบบในโลกเหมือนกัน เค้กกล้วยหอมใส่ถ้วยกระดาษบ้านเราก็คือคัพเค้กประเภทหนึ่งเหมือนกันนะ ซึ่งในไทยก็มีคัพเค้กจริงๆ ก็มีขายอยู่ทั่วไป

Android 1.6 Donut

Android 1.6 Donut

ยังไม่ทันจะข้ามปี 2009 เลยในวันที่ 15 กันยายนปี 2009 กูเกิลก็ปล่อย Android 1.6 Donut ออกมาเพื่อแก้ไขและเพิ่มความสามารถในการทำงานให้มากขึ้น ปรับปรุงเรื่องความเร็วในการถ่ายภาพ และเพิ่มการรองรับเครือข่าย CDMA/EVDO (ฮัชท์เก่าบ้านเรา ปัจจุบันไม่มีบริการแล้ว) และมีระบบ Text-to-speech มาอีกด้วย

ไม่มีใครไม่รู้จักโดนัท!!! ขนมวงกลมมีรูตรงกลางหลากสีหลากรสชาติ อร่อยเหาะจนบางร้านต้องต่อคิวกันยาวเป็นกิโล ทะลุออกมาถึงถนนพระราม 1 (แต่ปัจจุบันคิวสั้นล่ะ 555)

Android 2.0 Éclair

Android 2.0 Éclair

ถ้าคิดว่า Android 1.6 Donut มาไวแล้ว Android 2.0 Éclair มาไวกว่า!!! เพียงเดือนกว่าๆ หลังจากเปิดตัวโดนัท วันที่ 26 ตุลาคมปีเดียวกัน Android 2.0 Éclair ก็เปิดตัวออกมา พร้อมการมาของ Live Wallpaper ที่เล่นกับนิ้วเราได้ และลูกเล่นการตกแต่ง Home Screen ให้เป็นไปตามที่ผู้ใช้ต้องการ และเป็นแอนดรอยด์รุ่นแรกที่ใช้ชื่อเล่นเดียวกันตั้งแต่ Android 2.0, 2.0.1 และ 2.1 ที่มีการแก้ไขบัคในวันที่ 12 มกราคมปี 2010

อีกหนึ่งขนมที่อยู่เมืองไทยมานานพอๆ กับโดนัท นั่นก็คือเอลแคร์ ดูในรูปคุณอาจนึกไม่ออก แต่ถ้าผมบอกว่าขนมสีเหลืองๆ นุ่มๆ เป็นเม็ดกลมๆ มีริ้วเล็กน้อย ไส้ครีมหวานละมุนแถมมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เชื่อว่าคงต้องเคยกินกันทุกคนแน่นอน

Android 2.2 Froyo

Android 2.2 Froyo

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแอนดรอยด์ที่มีความแพร่หลายมากรุ่นหนึ่งซึ่งมีอายุนานถึง 2 ปีตั้งแต่ Android 2.2 เปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคมปี 2010 ไปจนถึงรุ่น 2.2.3 ในเดือนพฤศจิกายนปี 2011 โดย Froyo มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง สั่งพิมพ์ด้วยเสียง และรองรับการแชร์อินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และ USB เป็นครั้งแรก

แล้วโฟรโย่คืออะไร? มันคือไอศกรีมหรือเปล่า เกือบใช่ครับ เพราะมันคือไอศกรีมโยเกิร์ตนั่นเองโดย Froyo เป็นชื่อหนึ่งของ Frozen Yogurt โดยจะเป็นไอศกรีมเนื้อเนียนออกรสเปรี้ยวโยเกิร์ตนิดๆ ซึ่งจะตกแต่งประดับประดาด้วยผลไม้สดอย่างเบอร์รี่ต่างๆ แต่อย่าคิดว่าเมืองไทยไม่มีนะครับ แค่เดินไปที่ร้าน Sfree  หลายสาขาทั่วกรุง มีให้ลองเพียบ!

Android 2.3 Gingerbread

Android 2.3 Gingerbread

ยังอยู่ในเวอร์ชั่น 2 อยู่กับ Android 2.3 Gingerbread ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และเริ่มรองรับ NFC แล้วที่เวอร์ชั่นนี้ โดยเป็นแอนดรอยด์ที่เพิ่มการตอบสนองด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อเล่นเกมได้สนุกขึ้น โดยเน้นเรื่องการรองรับภาพ เสียง และกราฟิกที่ดีขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาเกมสามารถพัฒนาเกมเจ๋งๆ ออกมาแข่งกับ iOS โดย Android 2.3 เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2010 และมีเวอร์ชั่นย่อยจนถึง 2.3.7 ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2011 ที่ผ่านมา

เอาอีกแล้ว แล้วนี่มันคือขนมอัลไล? จินเจอร์เบรด แปลได้ตรงๆ เลยครับนั่นก็คือขนมขิง หรือขนมปังขิงเป็นขนมโบราณของยุโรปตั้งแต่ 350 ปีก่อนคริสตกาลโน้นแน่ะ และมีหลากหลายรูปแบบมาก! แล้วแต่ตำหรับของแต่ละบ้านแต่ละพื้นที่ แต่ที่คล้ายกันก็คือจะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง และเครื่องเทศหลายแบบอย่างอบเชย กานพลู โดยใช้แป้งน้อยมาก และไม่ผสมยีสต์ที่จะให้ความนุ่มฟู แต่ที่ผมงงก็คือ ขนมชนิดนี้มีน้อยมากครับที่ใส่ขิง! (แล้วมันชื่อขิงทำไม) ส่วนบ้านเราไม่ค่อยมีให้กิน หายากนิดนึง

Android 3.0 Honeycomb

Android 3.0 Honeycomb

แอนดรอยด์เวอร์ชั่นนี้คนรู้จักกันน้อยสักหน่อย เพราะมันเกิดมาเพื่อแท็บเล็ตโดยเฉพาะ เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 2011 โดยเป็นช่วงต้นของแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่รุ่งเรืองขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และไม่มีให้ใช้ในสมาร์ทโฟนแต่อย่างใด โดยมีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบใหม่รองรับหน้าจอแนวนอน รองรับการทำงานกับซีพียู Multi-core หลายหัวได้ และมีเวอร์ชั่นยาวถึง Android 3.2

Honeycomb แปลตรงตัวเลยคือรังผึ้งครับ ใช่แล้ว รังผึ้งนี่แหละเป็นขนมได้ด้วย จะเอาไปอบกิน เชื่อมกินแบบไหนก็หวานหอมรสน้ำผึ้งเต็มๆ

Android 4.0 Ice Cream Sandwich

Android 4.0 Ice Cream Sandwich

มาถึงแอนดรอยด์รุ่นที่คนใช้มากที่สุด (แต่ก็กำลังลดลงแทนที่ให้รุ่นต่อไป) กับการมาครั้งแรก 3 ปุ่ม Soft Key ที่มาสิงอยู่ในหน้าจอแบบไม่มีปุ่มอยู่นอกจอแล้ว รวมทั้งการปฏิวัติและพัฒนาโครงสร้างภายในใหม่หลายจุด ดีไซน์หน้าตาใหม่ โดยดูเกิลใช้คำว่ายุคใหม่เลยทีเดียว โดยเปิดตัวมาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ปี 2011 และมีเวอร์ชั่นเรื่อยมาถึง Android 4.0.4 ในเดือนมีนาคมปี 2012

ขนมอีกชนิดที่หาไม่ยากในเมืองไทย เพียงแต่ต้องรู้แหล่ง นั่นก็คือไอศกรีมแซนวิช ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไอศกรีมนมประกบกับขนมปังแข็งซึ่งมักจะเป็นขนมปังช็อกโกแลต หากินง่ายๆ ครับที่ Daily Queen ทุกสาขา ขายเป็นก้อนรูปวงกลม อร่อยดีเหมือนกัน

Android 4.1 Jelly Bean

Android 4.1 Jelly Bean

ไอศกรีมแซนวิชไม่ได้ไปต่อในเวอร์ชั่น 4.1 เพราะในเวอร์ชั่นนี้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Android 4.1 Jelly Bean ซึ่งมีอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 9 กรกฎาคม ปี 2012 และมีเวอร์ชั่นเรื่อยมาจนถึงเวอร์ชั่น 4.3 ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมปี 2013 นี้เอง โดย android 4.1 Jelly Bean ได้ปรับให้มีความลื่นในการใช้งานมากขึ้น ทำงานกับกราฟิกอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่ม Google Now คู่แข่งตัวจริงของนาวสาวสิริ (Siri) ของ iPhone มาด้วย

เยลลี่รูปถั่วกลายเป็นสัญลักษณ์ของเวอร์ชั่นนี้ ซึ่งเป็นขนมที่เด็กๆ ชอบมากกกก เพราะเป็นเยลลี่รสหวานหลากกลิ่น เปลือกแข็งหรือนิ่มขึ้นอยู่กับผู้ผลิต เป็นขนมที่ผลิตเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่าง Jelly Belly ซึ่งในไทยก็มีนำเข้ามาขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือถ้ายังนึกไม่ออก ให้นึกถึงเยลลี่เม็ดทุกรสของเบอร์ตี้ บ็อตต์ ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่มีแม้แต่รสขี้หูน่ะ

>> ข้อมูลเพิ่มเติม  Android - 4.2 Jelly bean , Android - 4.3 Jelly Bean

Android 4.4 KitKat

Android 4.4 KitKat

และแล้วเราก็ดำเนินมาถึงแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมเสียงฮือฮาจากการตั้งชื่อตามชื่อแบรนด์ขนมเป็นครั้งแรก โดยไม่ได้ตั้งชื่อตามชื่อเรียกขนมทั่วไป โดย Android 4.4 KitKat เพิ่งมีการเปิดเผยชื่อเมื่อต้นเดือนกันยายนปี 2013 ผ่านมา และยังไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรมากกว่านี้

ไม่มีใครแน่ที่ไม่รู้จักขนมเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแล็ตตราคิทแคท เจ้าของสโลแกน “คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท” ห่อสีแดงๆ มีห่อกระดาษไข และห่อฟลอยด์อีกชั้นก่อนถึงเวเฟอร์เรียงติดกัน 4 แท่ง ยิ่งถ้าเป็นต่างประเทศล่ะก็นอกจากช็อกโกแล็ตแล้วยังมีรสชาเขียว (เคยกินของญี่ปุ่นมา อร่อยมว๊ากกก) รสสตรอเบอร์รี่ รสมะนาว รสแอปเปิ้ล รสชิสเค้ก จนไปถึงรสวาซาบิ! ซึ่งทั้งหมดมีพื้นเพจากช็อกโกแล็ตทั้งขาวและดำหมด

>> ข้อมูลเพิ่มเติม Android 4.4 KitKat มีอะไรใหม่?  ,  Android - 4.4 KitKat

อนาคตของ Android X.X

อนาคตของแอนดรอยด์นั้นแน่นอนว่ายังต้องรุ่งโรจน์ต่อไป กับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในฐานะระบบปฏิบัติการที่เล่นบทตัวเอกของสมาร์ทโฟนไปแล้ว แต่พื้นที่ของแท็บเล็ตนั้นกำลังถูก Windows เรียกคืนอย่างหนักหน่วงเอาการเลยทีเดียว แต่มั่นใจว่านักพัฒนาต้องใส่ลูกเล่นใหม่ที่ล้ำยุค (บางทีก็ล้ำหน้าเกินแบบที่ฮาร์ดแวร์ยังไม่รองรับ) เพื่อต่อกรกับทุกระบบปฏิบัติการที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบ 4K เต็มรูปแบบ การรองรับ HDMI ใหม่ USB 3.1 หรือหน่วยความจำใหม่ อะไรอย่างนี้เป็นต้น

แล้วแอนดรอยด์เวอร์ชั่นต่อเป็นจะเป็นขนมอะไร คิดเล่นๆ ว่าไหนๆ กูเกิลก็กลายเป็นพันธมิตรกับเนสเล่ย์ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าแอนดรอยด์รุ่นต่อไปจะตั้งชื่อมา ก็คงหนีไม่พ้นขนมของเนสเล่ย์ และขนมของเนสเล่ย์ที่ดังๆ อีกตัว คงหนีไม่พ้นไมโล เพราะนอกจากเป็นเครื่องดื่มโกโก้แล้ว ยังมีนมกล่อง มีช็อกโกแลตบาร์ มีช็อกโกแล็ตเม็ด ผง ซีเรียล และอีกมาก นับเป็นแบรนด์ขนมที่กว้างขวางเหมาะกับการรองรับอย่างกว้างขวางของแอนดรอยด์เลยทีเดียว (แค่การคาดเด่านะ 555)

 Tags:  Google , Android , Mobile , Tablet  , SmartPhone , Operator System (OS) , Mobile OS , History  , Nestle