PS4 และ Xbox One สุดยอดคอนโซลแห่ง Next-gen

พรีวิว PS4 และ Xbox One สุดยอดคอนโซลแห่ง Next-gen

หลังจากที่เครื่องเกมคอนโซลยุคใหม่หรือที่คอเกมเรียกกันว่า Next-gen ทั้ง PS4 และ Xbox One ได้ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งคู่แล้ว ก็ดูเหมือนว่ายอดขายกำลังไปได้สวย แม้ว่าจะยังไม่จำหน่ายทุกภูมิภาคทั่วโลกก็ตาม ส่วนในบ้านเราเองหลายคนก็รอเครื่องทางฝั่งเอเชียที่จะวางขายในเดือนธันวาคมนี้ แต่บางคนมีเงินหน่อยก็สั่งซื้อหรือเน้นหาเครื่องหิ้วตามร้าน และเพื่อต้อนรับการมาของเครื่องคอนโซลทั้งสองนี้เราก็เลยมีพรีวิวเล็กๆ ทั้ง PS4 และ Xbox One มาให้อ่านกัน

Playstation 4

- ฮาร์ดแวร์และดีไซน์

ทางด้านของดีไซน์ตัวเครื่องนั้นยังคงรูปแบบสี่เหลี่มเอาไว้เหมือนรุ่นก่อน แต่แอบเฉียงไปทางด้านหลัง ทำให้ดูมีความล้ำและทันสมัยกว่า นอกจากนี้ตรงกลางมีแถบแสดงสถานะของเครื่องซึ่งจะมีไฟเรืองแสงให้เห็นอยู่ด้วย เช่น สีฟ้าเมื่อเปิดเครื่อง หรือสีขาวในโหมดปกติ เป็นต้น นับว่าเป็นรูปทรงที่ลงตัวมากๆ ถ้าใครอยากรู้ว่าเครื่องหนักมั้ยขอบอกว่าน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัมนั่นเอง แต่ตัวจอยคอนโทรลเลอร์ DualShock 4 จะเบากว่าของ PS3 มาก แถมยังจับถนัดมือกว่าและที่พิเศษไปกว่านั้นตรงจอยตะมีรูสำหรับไว้เสียบหูฟังด้วย มีปุ่ม Share เข้ามาแทนที่ปุ่ม Start ส่วนปุ่มอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม

มาดูในส่วนของฮาร์ดแวร์กันบ้าง จุดเด่นของ PS4 ก็คงต้องยกให้กับ CPU ที่ใช้แบบ X86-64 AMD โดยอัดเม็ดแรมเข้าไปถึง 8Gb เลยทีเดียว ทำให้มีความใกล้เคียงกับเครื่อง PC สเปคสูง เหมาะสำหรับนักพัฒนาเกมที่จะทำเกมออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ส่วนฮาร์ดดิสจะมีให้ 500Gb แต่สามารถอัพเกรดได้ ตัวเครื่องมี USB3.0 ให้ใช้ด้วย มี HDMI 1 พอร์ต, Optical 1 พอร์ต และ AUX 1 พอร์ตสำหรับเสียบกล้อง PS4 Eye รองรับไวแลส 802.11b/g/n ที่ความถี่ 2.4 GHz และตัวเครื่องยังคงใช้แผ่น Blu-ray เหมือนเดิม

- UI อินเตอร์เฟส

ทางด้านหน้าตาอินเตอร์เฟสใช้งานนั้นดูจะไปคล้ายๆ กับของ Xbox 360 อยู่พอสมควร ดูเรียบๆ ใช้งานง่าย ที่สำคัญยังดูรวดเร็วกว่าของ PS3 ด้วย การใช้งานยังคงใช้ PSN ID เหมือนเดิม มีการเพิ่มพวกระบบแชร์กับ Social เข้ามาเยอะขึ้น แถมยังรองรับการสตรีมเกมถ่ายทอดสดให้ผู้ใช้ PS4 จากทั่วโลกได้ดูกันสดๆ ด้วย หรือจะอัดวิดิโอกับถ่ายรูปแล้วเอาไปอัพต่อก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ PS4 ยังรองรับการทำงานร่วมกันกับ PS Vita ด้วย ในส่วนของระบบ Remote play

- เกม

ถ้าพูดถึงเกมแล้ว PS4 มีเกมให้เล่นเพียบเลยทีเดียว ทั้งแบบแผ่นที่วางขายและแบบการซื้อดาวน์โหลดผ่านทาง Playstation Network ล่าสุดก็มีทั้ง Killzone Shadow Fall, Knack, Assassin’s creed 4, Call of Duty Ghost เป็นต้น หรือจะเป็นเกมออนไลนให้เล่นฟรีๆ ก็มีด้วย เช่น Black Retribution, Warframe และ DC Univers ซึ่งจะมีเกมทั้งแบบ Exclusive ฟอร์มใหญ่ ฟอร์มเล็ก หรือจากสดูดิโออินดี้ต่างๆ ออกมาอีกเพียบอย่างต่อเนื่อง

Xbox One

- ฮาร์ดแวร์และดีไซน์

ดีไซน์ตัวเครื่องยังเน้นรูปทรงสีเหลี่ยมแบบเรียบง่าย แต่ส่วนฝาด้านบนมีใส่ความโฉบเฉี่ยวด้วยการทำพื้นผิวไม่เหมือนกัน แบ่งครึ่งข้างนึงเรียบเงาส่วนอีกครึ่งเป็นลายเส้นตรงเฉียงๆ เรียงติดๆ กัน ตัวเครื่องดูใหญ่กว่า Xbox 360 แถมยังมีน้ำหนักที่มากกว่า PS4 ด้วย โดยน้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกว่าๆ และตัวเครื่องสามารถวางได้แค่แนวนอนเท่านั้น ทางด้านของจอยคอนโทลเลอร์ถูกออกแบบมาให้จับได้กระชับมืดขึ้น และดูเหมือนว่าจะใช้วัสดุที่ดีขึ้นมากเช่นกัน ตำแหน่งปุ่มต่างๆ ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ย้ายปุ่ม Xbox ที่อยู่ตรงกลางไปไว้ด้านบนแทน ซึ่งพวกปุ่ม RB RT LT LB ก็ใช้งานได้ถนัดมือขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน

ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้น ตัว CPU ใช้งานชิพ x86 เหมือนกับ PS4 และมีแรม 8Gb เช่นกัน ซึ่งจะมีฮาร์ดดิสขนาด 500Gb เท่ากันด้วย แต่ที่เด็ดก็คือตัวเครื่องสามารถทำงานแบบ Multi ประมวลผลได้ถึง 3 ช่องทางโดยไม่มีอาการกระตุกเลย ทั้ง การเล่นเกม ดูทีวี หรือเล่น App ต่างๆ ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อเครื่องนั่นแหละครับ ทำทุกอย่างได้ในหนึ่งเดียว แน่นอนว่ามันมีพอร์ต HDMI และยังมีพอร์ต USB 3.0 มาให้ด้วย

- UI อินเตอร์เฟส

อินเตอร์เฟสหน้าตาตอนใช้งานนั้นเรียกว่าคงยังของเดิมไว้ เพราะเอาจริงๆ ใน Xbox 360 เอง บริการหรือระบบที่ใช้ Xbox Live ก็มีหน้าตาที่ใช้งานสะดวกและรวดเร็วอยู่แล้ว แต่สำหรับใน Xbox One นี้หน้าตาของมันจะดูคล้ายๆ กับ Window 8 อยู่พอสมควร แต่ที่เจ๋งกว่า PS4 ก็คือมันรองรับการใช้งานด้วยเสียงแบบเต็มรูปแบบและการใช้โมชั่นคอนโทรลเลอร์ในการควบคุมผ่านอุปกรณ์อย่างกล้อง Kinect นั่นเอง

.- เกม

สำหรับเกมบน Xbox One นั้น ต้องบอกว่าในตอนนี้ยังมีเกมเฉพาะหรือเกมที่ Exclusive ออกมาให้เล่นกันน้อยไปหน่อย ที่เห็นๆ อยู่ก็คือ Ryse: Son of Rome กับ Dead Rising 3 ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตจะมีออกมาให้เล่นอีกเพียบเช่นกัน ส่วนตอนนี้เกมที่มีให้เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นเกม Multi platfrom ซึ่งมีลงให้กับทุกเครื่องนั่นเอง

สรุปแล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าจะเลือกซื้อคอนโซล Next-gen เครื่องไหน PS4 ก็เด่นในเรื่องของเกม ส่วน Xbox One ก็เด่นในเรื่องความบันเทิงด้วย App ต่างๆ และอุปกรณ์กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวอย่าง Kinect ที่เหลือก็คงต้องดูว่าใครจะมีเกมพวก Exclusive ที่น่าเล่นกว่ากัน…