Google I/O 2013 Hightlight
รวมเรื่องน่าสนใจจาก Keynote ใน Google I/O 2013 เก็บตกบรรยากาศและเทคโนโลยีสุดล้ำจากงาน Google I/O 2013 Google+ Sign In ...
https://outdoclub.blogspot.com/2013/05/google-io-2013-hightlight.html
รวมเรื่องน่าสนใจจาก Keynote ใน Google I/O 2013
เก็บตกบรรยากาศและเทคโนโลยีสุดล้ำจากงาน Google I/O 2013
Source : Google Developers
เก็บตกบรรยากาศและเทคโนโลยีสุดล้ำจากงาน Google I/O 2013
Google+ Sign In
ก่อนหน้านี้ Google พยายามผลักเรื่อง Google+ Sign In ให้เข้าสู่ระบบ Web/Mobile หวังจะแบ่งส่วนแบ่งการตลาดการยืนยันตัวตนแบบ Single Sign On ที่ Facebook แทบจะผูกขาดอยู่ตอนนี้ มางานนี้กูเกิ้ลก็ตอกย้ำอีกครั้งว่า Google+ Sign In นี่แหละ เป็นสิ่งที่ชั้นเอาจริงนะ ด้วยการปล่อย SSO แบบ Cross Platform ออกมา
ใครก็ตามที่ทำ Cross Platform Gaming Service ที่เซฟเกมลง Cloud ได้ ผู้นั้นจะครองโลกได้ ... และ Google ก็ทำแล้วครับ ปล่อย Google Play Gaming Service ระบบ Game Center เต็มรูปแบบ พร้อมให้นักพัฒนาเอาไปใช้ได้ทั้งบน Android, iOS และ Web
ระบบโดยรวมมีเหมือนที่ Game Center มีคือระบบ Multi Player, Leaderboard และ Achivements แต่ที่เด็ดสุดๆก็คงหนีไม่พ้น Cloud Save ที่จะเซฟเกมลง Cloud ได้ เรียกว่าเป็นไม้เด็ดของ Google ในงาน I/O ปีนี้เลย
ปัญหาอย่างเดียวของเจ้า Google Play Gaming Service คือมันใช้ Google+ ในการเชื่อมต่อระหว่างผู้เล่น (ซึ่งก็ต้องเป็นอย่างงั้นแหละ ไม่งั้นจะทำ Google+ มาทำไม) ก็ต้องดูว่ากูเกิ้ลจะทำให้มันไม่ใช่ปัญหาได้หรือไม่
Google Play Gaming Service
ระบบโดยรวมมีเหมือนที่ Game Center มีคือระบบ Multi Player, Leaderboard และ Achivements แต่ที่เด็ดสุดๆก็คงหนีไม่พ้น Cloud Save ที่จะเซฟเกมลง Cloud ได้ เรียกว่าเป็นไม้เด็ดของ Google ในงาน I/O ปีนี้เลย
ปัญหาอย่างเดียวของเจ้า Google Play Gaming Service คือมันใช้ Google+ ในการเชื่อมต่อระหว่างผู้เล่น (ซึ่งก็ต้องเป็นอย่างงั้นแหละ ไม่งั้นจะทำ Google+ มาทำไม) ก็ต้องดูว่ากูเกิ้ลจะทำให้มันไม่ใช่ปัญหาได้หรือไม่
GCM (Google Cloud Messaging)
GCM (หรือก่อนหน้านี้คือ C2DM) ระบบ Push ที่ถูกใช้บน Android ตอนนี้ถูกประกาศฟีเจอร์เพิ่มอีกสองอย่างคือ สามารถติดต่อกลับไปยัง Server ผ่าน GCM ได้ ประโยชน์คือมันจะมีระบบ Retry ให้ถ้าติดต่อ Server ไม่สำเร็จ จะช่วยประหยัดแบตลงไปได้กระด๋อยนึง ส่วนอีกฟีเจอร์คือหากเรามีมือถือแอนดรอยด์หลายเครื่อง เราจะสามารถ Sync ข้อความระหว่างเครื่องได้ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากๆ เราเปิดอ่าน Push จากเครื่องนึงแล้ว
Android Studio
Google ใส่ใจนักพัฒนาแอพฯ Android สักที !! โดยตัดสินใจโยน Eclipse + ADT Plugin ทิ้ง แล้วทำ IDE ขึ้นมาใหม่เองเลยในนาม Android Studio โดย Base บน Intelli-J
ความเจ๋งของมันเรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างที่นักพัฒนาแอพฯแอนดรอยด์จำเป็นต้องใช้ ที่เด็ดโคดๆคือ สามารถทำ UI ได้ง่ายขึ้นมาก ทั้งระบบการวาง Component และการ Live Preview บนขนาดหน้าจอต่างๆ จอเล็กจอใหญ่ แนวตั้งแนวนอน มือถือหรือ Tablet มีครบหมด
(ตามภาพด้านบน) จะเห็นว่าแค่เราแก้ xml ทุกหน้าจอก็จะพรีวิวให้ดูเลยว่าบนหน้าจอไหนจะแสดงผลยังไง คราวนี้แทบจะตัดปัญหาเรื่อง UI Fragmentation ทิ้งไปได้เลย ไม่ต้องไปนั่งลองทีละเครื่องอีก
แต่ยังไงก็ตาม ถ้าใครคิดว่าปัญหา Fragmentation จะหมดไปอย่างสิ้นเชิงแล้วหละก็ ผิดจ้า เพราะนี่เป็นเครื่องมือที่ช่วยส่วนหนึ่งเท่านั้น มันก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด เพราะ OEM แต่ละยี่ห้อก็มีความสามารถในการทำให้ Android ผิดเพี้ยนไปอยู่ไม่น้อย แม้จะเป็น Android เวอร์ชั่นเดียวกัน ก็ทำงานต่างกันได้ มีทั้งเรื่องรอม เรื่องแรม เรื่อง Internal Memory ฯลฯ การ Deploy จริงก็คงต้องมานั่งเทสต์อยู่ดีว่ามีปัญหากับรุ่นไหนมั้ย แต่ความเหนื่อยลดลง 50% หรือมากกว่า
Google Play Developer Console : Auto Translation
เรื่อง Localization ก็เป็นอีกหนึ่ง Key Success ของ Mobile App เพราะมีหลายประเทศไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่ครั้นเราจะมานั่งแปลแอพฯให้เป็นภาษาต่างๆก็คงจะลำบาก แต่มันไม่ยากอีกต่อไป เพราะ Google ไปดึง Service Google Translate มาแปลข้อความทั้งหลายของเราในหน้า Google Play Developer Console ให้ เรียกว่าพิมพ์ภาษาใดภาษาหนึ่งไป ที่เหลือมันจัดการแปลเป็นภาษาต่างๆให้เราเลย ครบ !
ไม่เฉพาะแต่พวก Metadata เท่านั้นที่ถูกแปล แต่ไฟล์ APK ก็ถูกแปลได้ด้วยนะจ๊ะะะะ (หมายถึงพวกภาษาในแอพฯ) แค่อัพโหลดไฟล์ string.xml ไป มันก็จะแปลเป็นภาษาต่างๆให้แล้วเราก็จะได้ string.xml สำหรับภาษาต่างๆมา แค่นี้เราก็จะได้แอพฯภาษาต่างๆ
Google Play Developer Console: Beta Testing and Staged
ระบบหลังบ้านของ Google Play เพิ่มส่วนอำนวยความสะดวกในการทำระบบ Beta Testing และ Alpha Testing รวมถึง Stage ของการพัฒนาเป็นลำดับขั้นตอน ช่วยให้การส่งให้คนทดสอบเป็นระบบมากขึ้นมาก
วิธีการดึงคนเข้า Beta/Alpha Testing นั้น ก็แค่ไป Search หาคนใน Google+ แล้ว Add เข้าได้เลยอย่างง่ายดาย
ไม่เฉพาะแต่พวก Metadata เท่านั้นที่ถูกแปล แต่ไฟล์ APK ก็ถูกแปลได้ด้วยนะจ๊ะะะะ (หมายถึงพวกภาษาในแอพฯ) แค่อัพโหลดไฟล์ string.xml ไป มันก็จะแปลเป็นภาษาต่างๆให้แล้วเราก็จะได้ string.xml สำหรับภาษาต่างๆมา แค่นี้เราก็จะได้แอพฯภาษาต่างๆ
Google Play Developer Console: Beta Testing and Staged
ระบบหลังบ้านของ Google Play เพิ่มส่วนอำนวยความสะดวกในการทำระบบ Beta Testing และ Alpha Testing รวมถึง Stage ของการพัฒนาเป็นลำดับขั้นตอน ช่วยให้การส่งให้คนทดสอบเป็นระบบมากขึ้นมาก
วิธีการดึงคนเข้า Beta/Alpha Testing นั้น ก็แค่ไป Search หาคนใน Google+ แล้ว Add เข้าได้เลยอย่างง่ายดาย
Google Play Developer Console: Referral Flow
เพิ่มการตรวจสอบ Referral จากหน้าหนึ่งสู่อีกหน้าหนึ่งในระบบ Google Play เพื่อเช็คละเอียด แสดงผลในหน้า Google Analytics
ประโยชน์ก็คือ เราจะตรวจได้ว่าใครมาโหลดแอพฯเรา โหลดจากไหน Conversion Rate เท่าไหร่ ฯลฯ เอาไปวิเคราะห์ Strategy และการตลาดได้เลย ไม่ต้องมานั่ง Track เองให้ลำบาก
Google+ Hangouts
Hangouts มาแทน Talk
สงสัยมานานว่าทำไม Google ไม่เอา Talk ให้เป็น Messaging Platform บนมือถือเลย เอา Messenger บน Google+ มาทำให้ซ้ำซ้อนทำไม ล่าสุด Google Talk ก็หมดวาระของมันแล้ว ถูกโยกออก แล้วดึงเอาระบบ Chat + Video Call เข้ามาแทนแบบสมบูรณ์แบบ มันมีชื่อว่า ... Hangout
ก็ Hangouts ตัวเดียวกับที่มีอยู่บน Google+ นั่นแหละ แต่กูเกิ้ลเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถแชทกันได้ด้วย ส่งรูป ข้อความ เสียง วีดีโอ ฯลฯ หากันได้ เหมือนโปรแกรมแชทบนมือถือที่เราใช้ๆกันอยู่ทุกวันนี้
บท สรุป Google I/O 2013 นี่คือเรื่องของ "แพลตฟอร์มและบริการ"
- ไม่มี Android Version ใหม่เปิดตัวในงานนี้
- ไม่มีการพูดถึง Google Glass
- Google Play มีการรวมตัวกับ Google+ มากขึ้น ทั้งเรื่องของการแนะนำแอพจากเพื่อนใน Circles และการเอา Google+ ไปรวมในแอพให้สามารถค้นหาเพื่อนเล่นได้
- เปิดบริการ Google Play Games Services ที่นักพัฒนาเกมสามารถเอาไปเพิ่มเติมในเกมตนเองเพื่อโชว์คะแนน จัดอันดับผู้เล่นว่าใครได้คะแนนมากน้อยกว่าได้ (Leader Board)
- เปิดบริการ Cloud Save – เก็บเซฟเกมขึ้น Cloud ทำให้ต่อไปนี้จะเล่นเกมจากเครื่องใด ๆ ก็เห็นเซฟเกมเป็นอันเดียวกัน ไม่ต้องกลัวเซฟหายอีกต่อไป
- Google Maps เปิดตัว API ใหม่ๆให้นักพัฒนาได้นำไปใช้ โดยที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ที่จะทำให้การเปิด GPS กินไฟน้อยลงกว่าเดิมมาก
- เปิดตัว Android Studio ที่จะมาช่วยเรื่องการเขียนแอพหลากหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น ทำให้เราๆจะได้เห็นแอพที่มีคุณภาพ แสดงผลในทุกหน้าจอได้สมบูรณ์มากขึ้น
- เพิ่มการวัดผลและปรับปรุงแอพให้ดีกว่าเดิมด้วย Developer Console โดยเหล่านักพัฒนาจะสามารถติดตามสถิติการใช้งานของผู้ใช้ได้ดีกว่าเดิม เอาข้อมูลมาปรับปรุงแอพให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
- Google+ ยกเครื่องใหม่อีกครั้ง เพิ่มความเมพด้าน Timeline, Photos, และ Hangouts ขึ้นไปอีก
- มีแอพของ Google ออกอัพเดทหลังจาก Keynote คือ Play Music, Google Search, และHangouts (มาแทน Google talk) แนะนำให้ลอง เจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลย
- Galaxy S4 Google Edition หรือ GS4 Nexus จะมีวางจำหน่ายในวันที่ 26 มิถุนายน ในอเมริกาเท่านั้น รองรับ LTE แต่ว่าราคาแพงหูฉี่ $649 รวมทุกอย่างเป็นเงินไทยแล้วก็น่าจะพอกับ S4 ที่ขายปกติตอนนี้เลย
Source : Google Developers