หมัดต่อหมัด! "Samsung Galaxy S" series ปะทะ "Apple iPhone"
https://outdoclub.blogspot.com/2014/03/Samsung-Galaxy-S-series-vs-Apple-iPhone.html
หมัดต่อหมัด! "Samsung Galaxy S" series ปะทะ "Apple iPhone"
เส้นทางสังเวียนเดือดของ 2 สุดยอดสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่แห่งยุค
Apple iPhone 5S , Samsung Galaxy S5 |
หลังจากที่ Samsung เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวล่าสุด Galaxy S5 ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มคุณสมบัติการสแกนลายนิ้วมือ, กันน้ำ, ระบบตรวจวัดการเต้นของหัวใจ ฯลฯ ไม่ว่าเสียงตอบรับจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่า Galaxy S5 นั้นถูกส่งออกมาเพื่อลั่นกลองรบ พร้อมดวลกับมือถือรุ่นท็อปยี่ห้ออื่น ๆ โดยเฉพาะคู่แข่งยักษ์ใหญ่จากแดนอเมริกาอย่าง iPhone 5S ของ Apple อย่างไม่ต้องสงสัย
ย้อนดูสุดยอดสังเวียนที่ดุเดือดที่สุดในแวดวงสมาร์ทโฟน นับตั้งแต่การเปิดตัว Galaxy S รุ่นแรก ที่พร้อมตั้งรับท้าดวลกับ iPhone 4 เมื่อปี 2010 มาจนถึงรุ่นล่าสุด Galaxy S5 ปะทะ iPhone 5S… เป็นคุณจะเลือกค่ายไหน?
Samsung Galaxy S |
เริ่มต้นเปิดศึกแห่งสองขั้วอำนาจวงการสมาร์ทโฟน ด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy S เมื่อช่วงเดือนมีนาคมของปี 2010 และกลายเป็นแม่ทัพรายใหม่แห่งค่ายมือถือระบบ Android ไปในทันที อันเนื่องมาจากเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกอกถูกใจผู้ใช้งานทั้งหลายในเรื่องของสเปคที่จัดเต็ม, หน้าจอสว่างสวยคม, คุณภาพเสียงดี ฯลฯ ถือเป็นการเขย่าวงการ และทำเอามือถือรุ่นคู่แข่ง ณ ตอนนั้นอย่าง HTC Desire, Xperia X10 รวมไปถึง iPhone 3GS ต้องสั่นคลอน
เมื่อตอนเปิดตัว Samsung Galaxy S ครองสถานะสมาร์ทโฟนที่มีระบบกราฟฟิคเร็วสูงสุด แล้วยังบางที่สุดเพียง 9.9 มม. เรียกได้ว่าเทพทั้งในด้านสเปคและดีไซน์ เลยไม่แปลกใจที่จะสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายถึงกว่า 24 ล้านเครื่องทั่วโลก เบิกทางสู่การพัฒนา Galaxy S รุ่นอื่น ๆ เพื่อสืบสานสถานะของมือถือรุ่นท็อปจากฝั่ง Android เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
Steve Jobs แนะนำ Apple iPhone 4 ในงาน WWDC 2010 |
เมื่อ Galaxy S เป็นฝ่ายเปิดศึกเข้าหาแล้ว Apple ก็ขอส่ง iPhone 4 โฉมใหม่ดีไซน์เรียบหรูออกมารับมือบ้าง ภายหลังจากที่ Samsung เพิ่งวางขาย Galaxy S ไปได้เพียง 3 วัน iPhone 4 ก็กระชากตำแหน่งสมาร์ทโฟนที่มีความบางสุดไปครองแทนด้วยความบางเพียงแค่ 9.3 มม. เท่านั้น แถมยังได้รับการออกแบบใหม่หมดจรด ตัวเครื่องทำจากวัสดุกระจกหน้า-หลัง ล้อมกรอบด้านข้างด้วยวัสดุโลหะเรียบหรู, หน้าจอ Retina Display ให้ความละเอียดคมที่สุดเท่าที่ดวงตาสามารถมองเห็นได้, สเปคฮาร์ดแวร์ภายในได้รับการอัพเกรดใหม่ให้เร็วแรงขึ้น รองรับการทำงานแบบ multi-tasking ได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย แม้จะมีปัญหาในเรื่องของเสารับสัญญาณรอบตัวเครื่องไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า iPhone 4 คือผู้ที่ควรค่าแก่การสืบทอดบัลลังก์จาก iPhone 3GS และสามารถต่อกรกับ Samsung Galaxy S ได้อย่างแท้จริง
Samsung Galaxy S II |
เกือบหนึ่งปีต่อมา Samsung ก็พร้อมอัพเกรดขุนพลสมาร์ทโฟน Android สานต่อความสำเร็จของ Galaxy S series ด้วยการเผยโฉม Galaxy S II ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2011 ที่ยังคงตอกย้ำจุดขายในเรื่องของสเปคความแรง ด้วยพลังซีพียู 1.2 GHz dual-core พร้อมกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD กลายเป็นที่ชื่นชมจากทั่วไปอีกเช่นเคย และสามารถสร้างฐานผู้ใช้ให้กลายมาเป็นสาวกของ Samsung Galaxy S series มากมายทั่วโลก
นอกจากนี้ในเรื่องของดีไซน์ Galaxy S II ได้ลดความบางลงเหลือเพียง 8.5 ม.ม. ส่วนหน้าจอก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4.3 นิ้ว หน่วยความจำได้รับการเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนอีกเป็นเท่าตัว แต่ก็ไม่วายมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้างในเรื่องของวัสดุตัวเครื่องที่ Samsung ยังเลือกใช้พลาสติกล้วนเหมือนเดิม
"SIRI" Apple iPhone 4S |
ต่อมาก็ถึงคราวของ Apple กันบ้าง ที่ขอเปิดตัว iPhone 4S ในเดือนตุลาคม 2011 แม้จะเป็นเพียงแค่อัพเกรดสเปคภายใน โดยไม่มีการเปลี่ยนโฉมที่โดดเด่นอะไรมากนัก ด้วยการใช้ชิพเซ็ทรุ่นใหม่ Apple A5 พร้อมกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD ทัดเทียมกับ Galaxy S II นอกจากนี้ iPhone 4S ยังมาพร้อมคุณสมบัติเด่นใหม่สุดล้ำอย่าง Siri ระบบผู้ช่วยส่วนตัวสั่งงานด้วยเสียง แต่น่าเสียดายที่หลาย ๆ ความสามารถของ Siri ยังไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศรวมทั้งไทย อีกทั้งยังไม่รองรับภาษาไทย จึงทำให้ Siri ไม่ค่อยถูกนำมาใช้งานจริงเท่าไหร่นัก แต่ด้วยชื่อชั้นระดับ Apple จึงสามารถการันตียอดขายและความสำเร็จของ iPhone 4S ได้เช่นเคย แม้อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนกับการเปิดตัว iPhone ครั้งก่อน ๆ
Apple iPhone 4S , Samsung Galaxy S III |
หลังจากที่ใช้เวลาซุ่มพัฒนามานานกว่า 18 เดือน Samsung ก็กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่ง Android ยอดนิยมอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Galaxy S III ในเดือนพฤษภาคมของปี 2012 ครองตำแหน่งอุปกรณ์ไอทีที่ทำยอดขายได้เร็วที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องจากนานาสำนักว่าเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อล้ม iPhone โดยเฉพาะ
Samsung Galaxy S III ได้รับการอัพเกรดจากรุ่นก่อนด้วยการปรับไปใช้หน้าจอขนาดใหญ่/ละเอียดขึ้นที่ 4.8 นิ้ว 720×1280 พิกเซล, ซีพียูแรงเขย่าวงการระดับ 1.4 GHz quad-core ฯลฯ และยังเป็นสมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกที่กล้าตั้งราคาเปิดตัวไว้สูงกว่า iPhone 4S ที่เป็นรุ่นท็อปจากฝั่งของ Apple ณ ตอนนั้น
นอกจากการสู้รบกันด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ แล้ว คู่กรณีทั้งสองรายนี้ก็ยังมีเรื่องราวถึงขั้นต้องฟ้องร้องกันในศาล ซึ่งทาง Apple กล่าวหาว่า Samsung ได้ลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จนเกิดเป็นคดีความมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2012 ลากยาวเรื่อยมาจนกระทั่งในทุกวันนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ
Apple iPhone 5 |
ภายหลังชัยชนะในศาลชั้นต้น Apple ก็ขอตอกย้ำความสำเร็จด้วยการเผยโฉม iPhone 5 ใหม่หมดจรดในเดือนกันยายนต่อมา ครั้งนี้ Apple ได้ปรับโฉมรูปร่างสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของตัวเองอย่างยกใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนขนาดตัวเครื่องและหน้าจอให้ยาวขึ้นจากเดิมไปเป็นสัดส่วนแบบจอ wide-screen 16:9 แล้วยังเปลี่ยนช่องเสียบมาตรฐานเดิมแบบ 30-pin ไปเป็นแบบใหม่ที่เรียกว่า Lightning ด้านตัวเครื่อง iPhone 5 เปลี่ยนมาใช้วัสดุหลักทำจากอลูมิเนียม บางลง เบาลง แต่ยิ่งเรียบหรูมากขึ้น ทั้งยังทรงพลังขึ้นด้วยชิปรุ่นใหม่ Apple A6 และกล้องหน้าที่ได้รับอัพเกรดให้รองรับการถ่ายวิดีโอหรือคุยแชทละเอียดระดับ HD
ความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนครั้งใหญ่ ทำให้ iPhone 5 เป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าสาวกเป็นจำนวนมาก และสามารถทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านเครื่องภายหลังจากที่เปิดตัวไปได้เพียง 24 ชม. เท่านั้น
Samsung Galaxy S4 , Apple iPhone 5 |
ด้าน Samsung ก็ไม่ขอน้อยหน้า ด้วยการเผยโฉม Galaxy S4 ต่อหน้าสายตาคนทั่วโลกในเดือนมีนาคมปี 2013 แม้ดีไซน์ภายนอกอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนเท่าไหร่นัก แต่ภายใน Samsung ก็จัดเต็มมาให้อีกเช่นเคย ทั้งในเรื่องของสเปคเริ่มต้นกันที่หน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้วแบบ Full HD, ซีพียูรุ่นแรงสุดแบบ octa-core (1.6 GHz quad-core และ 1.2 GHz quad-core) ที่แรงจนคอมโน้ตบุ๊คยังหนาว และยังมีกล้องหลังความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซลมาให้ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ Galaxy S4 ยังอัดแน่นมาด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวจากทาง Samsung เองอย่างระบบสั่งการด้วยนิ้วมือแบบไร้การสัมผัส หรือการควบคุมแอพต่าง ๆ ด้วยดวงตาของผู้ใช้เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายกลับแสดงความเห็นไปในทำนองว่า คุณสมบัติที่อัดแน่นมาใน Galaxy S4 ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถนำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้จริง และกลับกินพื้นที่ของหน่วยความจำในตัวเครื่องไปอย่างไม่จำเป็น แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งความฮอตของสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจากแดนกิมจิรุ่นนี้ได้ จนทำให้ Galaxy S4 ทำลายสถิติเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Samsung เลยทีเดียว
Apple iPhone 5S |
กลายเป็นมาตรฐานไปแล้วสำหรับการออกสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่จากฝั่งของ Apple ที่จะต้องสลับการเปิดตัวรุ่นใหม่หมดจรด ด้วยรุ่นที่เป็นแค่การอัพเกรดในเรื่องของสเปคเสียมากกว่า แล้วทำการเติม “S” เข้าไปที่ด้านหลังชื่อรุ่น ดังที่เราได้เห็นในการเปิดตัว iPhone 5S เมื่อเดือนกันยายน ปี 2013 โดยความเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็น Touch ID หรือคุณสมบัติการสแกนลายนิ้วมือ ที่เพียงแค่วางนิ้วบนปุ่มโฮมก็สามารถปลดล็อกใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว แล้วที่สำคัญอีกอย่างก็คือ iPhone 5S นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 7 รุ่นใหม่ล่าสุด พลิกโฉมหน้าตาของระบบครั้งใหญ่ครั้งแรก เน้นความเรียบง่ายเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
>> อ่านเพิ่มเติม : สรุปฟีเจอร์เด่น บน iOS 7
นอกจากนั้นแล้วก็เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรายละเอียดอย่างชิพประมวลผลด้านความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ ที่คาดกันว่า Apple เพิ่มเข้ามาให้รองรับกับอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ชนิดใหม่ในอนาคต แต่จุดเปลี่ยนเล็กน้อย ๆ ที่สามารถสร้างความฮือฮาได้มากที่สุด กลับกลายเป็นการเปิดตัว iPhone 5S สีทองใหม่ และทำให้บรรดาค่ายมือถือยี่ห้ออื่น ๆ แทบทุกรายต้องหันมาเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นสีทองของตัวเองไปตาม ๆ กัน
Samsung Galaxy S5 |
มาถึงข่าวล่าสุดกับ Samsung Galaxy S5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงานมหกรรมมือถือโลกที่ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่า ต้องเป็นอีกครั้งที่ Samsung จัดเต็มมาให้ในเรื่องของสเปคด้วยพลังซีพียู 2.5 GHz quad-core หรือ 2.1 GHz octa-core, กล้องหลังขนาด 16 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K แล้วก็มีคุณสมบัติใหม่ ๆ อย่างระบบตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม คล้ายกับของ iPhone 5S และการป้องกันน้ำและฝุ่น มาตรฐาน IP67 (กันน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที)
>> อ่านเพิ่มเติม : "Samsung UNPACKED 2014 Episode 1" Galaxy S5 เปิดตัวแล้ว พร้อม Gear 2, Gear 2 Neo และ Gear Fit
หลังการเผยโฉม Galaxy S5 ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีบางฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่แปลกใหม่หรือน่าประทับใจเพียงพอ เพราะก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์จากหลาย ๆ ฝ่ายว่า Galaxy S5 จะต้องมาพร้อมกับหน้าจอที่ละเอียดยิ่งกว่า Full HD, ตัวเครื่องแบบใหม่ที่จะหันไปใช้วัสดุหลักจากโลหะ หรือขนาดของแรมจะต้องให้มามากกว่านี้ ฯลฯ แต่ก็มีเสียงโต้แย้งกลับมาด้วยเหมือนกันว่า การเปิดตัว Galaxy S5 ครั้งนี้แสดงถึงแนวทางที่ถูกที่ควรแล้ว เพราะมองว่า Samsung ไม่ควรยัดเยียดเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นหรือไม่สามารถใช้งานได้จริงมาเสียเยอะเกินไปเหมือนกับเมื่อตอนเปิดตัว Galaxy S4
ไม่ว่ากระแสหลังเปิดตัว Galaxy S5 จะเป็นไปในแนวทางไหน สิ่งที่ต้องจับตาก็คือความเคลื่อนไหวจากฟากของ Apple กันบ้างแล้วว่า จะสามารถสร้างความแปลกใหม่ประทับใจให้ผู้ที่เฝ้าติดตามจากทั่วโลกได้หรือไม่
บางทีถ้าเป็น iPhone 6 จอ 4.7 นิ้ว เปิดตัวพร้อม iWatch คงน่าสนใจไม่น้อยเลยเชียวล่ะ...