10 สถานที่เคาท์ดาวน์ที่อลังการที่สุด
https://outdoclub.blogspot.com/2013/12/Countdown10City.html
อีกหนึ่งกิจกรรมสุดฮิตสำหรับการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ นั่นก็คือ เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองการนับถอยหลังเข้าสู่วินาทีสำคัญของการก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตเวลา และนี่คือ 10 สถานที่สุดฮอตที่มีการจัดแสดงแสงสีเพื่อการเฉลิมฉลองอันแสนตื่นตาและเร้าใจ ที่หลายคนอยากมีประสบการณ์ล้ำค่าแบบนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
1. London, UK
มหานครลอนดอน เมืองใหญ่ที่จัดงานปีใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมสมฐานะความเป็นเมืองผู้ดี เสน่ห์ของงานฉลองปีใหม่ของลอนดอนอยู่ที่ปาร์ตี้บนเรือสำราญหรู ซึ่งจะล่องไปตามแม่น้ำธาเมส ส่วนบนฝั่งก็สนุกไม่ยิ่งหย่อน ในเวลาที่นาฬิกาบิ๊กเบนใกล้จะบอกว่าเที่ยงคืน ขบวนพาเหรดสุดแฟนซีจะเริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่ถนนเบิร์คเลย์ โดยมีต้นขบวนอยู่ที่ Parliament Square นับระยะความยาวได้กว่า 2 ไมล์ ประกอบด้วยผู้คนและนักแสดงกว่าหมื่นคน จาก 20 ประเทศ และเมื่อบิ๊กเบนบอกเวลา 00.01 น.
ดอกไม้ไฟที่เตรียมไว้บริเวณ ลอนดอน อาย จะกระจายตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า สร้างความสว่างไสวให้ท้องฟ้าลอนดอน อ้อ! แอบกระซิบนิดนึงว่า ถ้าอยากชมพลุที่สวยที่สุดของลอนดอน ให้ไปยืนบนสะพานเวสท์มินสเตอร์ จะได้เห็นภาพในมุมมองที่สวยสมแบบที่หาชมที่ไหนไม่ได้
2. New York, USA
ใครมานิวยอร์กในช่วงนิวเยียร์อีฟ นับเป็นกำไรชีวิต เพราะคุณจะได้เข้าร่วมเทศกาลฉลองสู่ศักราชใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก พิกัดเด่นๆ อยู่ที่ย่าน ไทม์ สแควร์แต่ถ้าใครชอบสีสันของปาร์ตี้ แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ ‘บิ๊ก แอปเปิ้ล' เพราะแต่ละผับ บาร์ ในย่านนั้นต่างพร้อมใจกันประชันแสง สี เสียง ยามค่ำคืนกันสุดฤทธิ์ รวมถึงกระหน่ำโปรโมชั่นแรงๆ เพื่อคืนรอยยิ้มและความสุขให้แก่วันเฉลิมฉลองของผองชน พอเข็มนาฬิกา
ถึงเลข 12 ดอกไม้ไฟสวยๆ เป็นร้อยเป็นพันชุด จะพุ่งขึ้นเหนือฟ้านิวยอร์ก เป็นสัญลักษณ์ว่า วาระแห่งปีใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
3. Paris, France
เมืองโรแมนติกอย่างกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พลาดไม่ได้กับการแสดงแสงสีที่หอคอยไอเฟล โดยไฮไลท์อยู่ที่การดับไฟ พร้อมกับการนับถอยหลังร่วมกันบนหอคอยไอเฟล ในช่วงเวลาเที่ยงคืน นอกจากนี้ชาวปารีเซียงยังนิยมมาปิกนิก ดื่มแชมเปญ จิบไวน์ รอชมแสงสีจากหอคอยไอเฟลตรงบริเวณ Champ de Mars Park บริเวณหน้าหอคอยไอเฟลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี
การจัดปาร์ตี้สังสรรค์ตามสถานที่และถนนสายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นประตูชัยหรือถนนแฟชั่นขึ้นชื่ออย่าง Champs-Élysées
4. Auckland, New Zealand
ที่เมือง โอ๊กแลนด์ นิวซีแลนด์ ก็เตรียมอ้าแขนต้อนรับแขกด้วยเทศกาลนิวเยียร์อีฟสุดยิ่งใหญ่ ในช่วงเวลานั้น หมู่เกาะบริเวณใกล้เคียงต่างก็จัดงานปาร์ตี้อย่างสนุกสนาน อย่างเช่นที่เกาะ Waiheke ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นปาร์ตี้ที่จัดได้หฤหรรษ์ที่สุดในนิวซีแลนด์ ส่วนถ้าเป็นเรื่องการจุดพลุดอกไม้ไฟแล้วละก็ คงต้องยกความสวยงามนั้นให้แก่ ดอกไม้ไฟที่พวยพุ่งออกมาจาก Sky Tower เพราะสวยถึงกับสามารถสะกดสายตาและทำให้คุณอ้าปากค้างได้
5. Sydney, Australia
เมืองเศรษฐกิจที่คึกคักที่สุดของออสเตรเลีย อย่าง ‘ซิดนีย์' คือหนึ่งในเมืองที่ถูกยกย่องว่าเป็น New Year's Eve Capital of the World แต่ละปีจะมีผู้คนจากทั่วโลกทะลักเข้ามาเพื่อเคาท์ดาวน์ที่ซิดนีย์เรือนล้าน กิจกรรมภายในงานจะเริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีการแสดงอากาศยานผาดโผน, ฉายโปรเจกเตอร์ขนาดยักษ์, การแสดงพื้นเมือง, พาเหรดเรือเล่นไฟ, จุดดอกไม้ไฟเป็นออร์เดิร์ฟ ก่อนจะเจอกับพลุและดอกไม้ไฟแบบจัดเต็มซึ่งเป็นไฮไลต์เด็ดของงาน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในอาณาบริเวณของสะพานฮาร์เบอร์และโอเปร่าเฮาส์ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองท่าแห่งนี้
6. Tokyo, Japan
คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเทศกาลปีใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม จนถึงวันที่ 4 มกราคม ตามธรรมเนียมดั้งเดิม ชาวญี่ปุ่นจะฉลองปีใหม่ด้วยการกิน Toshikoshi Soba ในวันส่งท้ายปีเก่า และไปฟัง Juya No Kane เสียงระฆังที่วัด ซึ่งจะสั่นประมาณ 108 ครั้ง อีกทั้งยังมีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว บริเวณลานสนามหญ้าหน้าวัด Zojoji ใกล้กับโตเกียวทาวเวอร์ จะมีการปล่อยบอลลูนฮีเลียมที่มีคำขอพรห้อยติดไว้ในเวลาเที่ยงคืนแทนการจุดพลุหรือดอกไม้ไฟ ขณะเดียวกันทางโตเกียวทาวเวอร์ก็จะมีการส่องสปอร์ตไลท์หลากสีขึ้นไปบนฟ้าเพื่อไปกระทบกับบอลลูนที่กำลังลอยขึ้นไป นับเป็นการสร้างความประทับใจได้เก๋ไก๋ไม่เบา
7. Beijing, China
มหาอำนาจอย่างจีน ฉลองปีใหม่ได้ยิ่งใหญ่สมกับเป็นแดนมังกร แลนด์มาร์กสำคัญในการเคาท์ดาวน์อยู่ที่ มหานครปักกิ่ง บริเวณ Temple of Heaven ซึ่งจะถูกประดับประดาด้วยแสง สี เสียง รวมถึงมีการแสดงสุดตระการตา ในช่วงตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกและคนท้องถิ่นจะหลั่งใหลเข้าสู่บริเวณพิธี เพื่อรอคอยการโปรยปรายกระดาษชิ้นเล็กๆ ลงมาในช่วงเวลาสำคัญของมนุษยชาติ ที่ขาดไม่ได้คือ ดอกไม้ไฟแบบอลังการงานสร้าง และการตีฆ้องร้องป่าวสู่ปีใหม่อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของจีน
8. Rio de Janeiro, Brazil
สำหรับสถานที่ที่แน่นขนัดในการชมการเฉลิมฉลองด้วยดอกไม้ไฟอีกหนึ่งแห่งคงจะหนีไม่พ้น ชายหาดสุดฮอต โคปาคาบาน่า ที่เมือง Rio de Janeiro โดยงานจะเริ่มประมาณ 20.00 น. ของค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม ตามความยาวของชายหาดไปเรื่อยๆ ประมาณ 4-5 กม. จะมีการแสดงคอนเสิร์ตจากดีเจและวงดนตรีชื่อดังทั้งของบราซิลเองและทั่วโลกเป็นการวอร์มเครื่องก่อนเข้าสู่การแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่ตระการตา การันตีความมันส์และความงามจากจำนวนคนที่แห่มาชมพลุในแต่ละปีที่มีกว่า 2 ล้านคน!!
9. Dubai, United Arab Emirates
เมืองดูไบจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งงานอีเวนต์และปาร์ตี้ต่างๆ แต่ไฮไลท์เด่นๆสำหรับที่นี่คงจะหนีไม่พ้นตึกสูงเสียดฟ้าชื่อก้องโลกอย่าง Burj Khalifa ซึ่งจะมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ การแสดงเลเซอร์ แสงสี กันอย่างแซบซี้ด นับเป็นสถานที่ฉลองปีใหม่ที่มีการใช้ดอกไม้ไฟเปลืองที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากจะมีการแสดงไฟแล้ว ยังมีการแสดง Dubai Fountain น้ำพุเต้นระบำประกอบเพลงที่สวยงามไม่แพ้กันอีกด้วย โดยจะมีทั้งเปลวไฟและสายน้ำเต้นระบำสอดประสานกันอย่างลงตัว นับเป็นการเฉลิมฉลองที่อลังการงานสร้างไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยทีเดียว
10. Cape Town, South Africa
สถานที่ที่มีการแสดงดอกไม้ไฟในค่ำคืนของวันสิ้นปีที่ฮอตที่สุดอยู่ที่ V&A Waterfront ใน Cape Town ซึ่งทุกปีจะมีอีเวนต์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม New Year's Eve Bash แต่ละปีจะมีผู้คนหลั่งไหลมาที่นี่นับพันๆ คน โดยจะมีทั้งการแสดงดนตรี Street Performers คอนเสิร์ตจากหลากหลายแบนด์ดัง รวมไปถึงการแสดงตีกลองของชาวแอฟริกัน นอกจากนี้อีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญสำหรับคนที่นี่คือการเฉลิมฉลองวันแรงงานแห่งชาติ และเป็นวัน Tweede Nuwe Jaar (2 มกราคม) ภายในวันนี้จะมีกิจกรรมพิเศษเกิดขึ้นมากมาย ที่เด่นๆ ก็คือขบวนพาเหรด Cape Town Minstrel Carnival ที่เต็มไปด้วยคนเพนต์หน้าหลากหลายสีสันเดินไปตามท้องถนนกันอย่างแน่นขนัด