gmgolf2

Apple Special Event. October 22, 2013

Apple Special Event. October 22, 2013


แอปเปิลเปิดตัว iPad Air และ iPad mini รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ



แอปเปิลส่งท้ายปี 2013 ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ iPad รุ่นใหม่ และสินค้าตระกูล Mac รวมถึงซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ทั้งหมดนี้เปิดตัวไปเรียบร้อยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา


          แอปเปิลได้ประกาศเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ที่ใช้ชื่อใหม่ว่า "iPad Air" จุดเด่นอยู่ที่ความบางและน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมกับเปิดตัว iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ที่มาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงตามคาด 


iPad Air
บางและเบากว่าเดิม แท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่ใช้ชิปแบบ 64-Bit

iPad Air



สำหรับพระเอกของงานนี้ต้องยกให้ iPad รุ่นใหม่ โดยแอปเปิลได้ใช้ชื่อใหม่ว่า iPad Air มาพร้อมกับดีไซน์ที่ไปในทิศทางแนวเดียวกับ iPad mini มีขอบหน้าจอบางลง และขัดขอบตัวเครื่องให้เงางาม สำหรับจุดเด่นของ iPad Air มีขอบหน้าจอที่บางเพียง 0.7 มม. บางลงกว่ารุ่นก่อนถึง 45% ส่งผลให้ตัวเครื่องบางลงเหลือ 7.5 มม. เท่ากับว่าบางลง 20% และมีน้ำหนักเพียง 469 กรัมเท่านั้น 

          ส่วนด้านสเปคมีหน้าจอขนาดเท่าเดิม 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล ใช้ซีพียู Apple A7 แบบ 64-bit และชิปประมวลผล M7 motion ถือว่าเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่ใช้ซีพียูประมวลผลแบบ 64-Bit ส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหลังเท่าเดิมที่ 5 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง





 iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)
 หน้าจอคมชัด สเปคใหม่


iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)



สำหรับใครที่กำลังรอคอย iPad mini รุ่นใหม่และต้องการหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้นกว่ารุ่นแรก แอปเปิลจัดให้ตามคำขอด้วยการเปิดตัว iPad mini with Retina Display ที่มาพร้อมหน้าจอ Retina Display ความละเอียด 2048x1036 พิกเซล (326 PPI) ส่วนรูปร่างหน้าจอของตัวเครื่องเหมือนเดิม ด้านสเปคใช้สเปคเดียวกับ iPhone 5s และ iPad Air ใช้ซีพียู Apple A7 แบบ 64-bit และชิปประมวลผล M7 motion สเปคอื่น ๆ เหมือนเดิม 


MacBook Pro with Retina Display
อัพเกรดสเปค รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว 


นอกจากแอปเปิลจะเปิดตัว iPad Air และ iPad mini with Retina Display ภายในงานแอปเปิลยังได้อัพเกรดสเปคสินค้าตระกูล MacBook Pro ใหม่อีกด้วย เริ่มต้นที่ MacBook Pro with Retina Display รุ่น 13 นิ้ว อัพเกรดซีพียูเป็น Intel รหัส Haswell, พอร์ต Thunderbolt 2, ใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมง ตัวเครื่องบางลงเหลือ 18 มม. และน้ำหนัก 1.57 กก. รวมถึงปรับราคาลงอีก 200 เหรียญ หรือประมาณ 6,200 บาท ราคาเริ่มต้นที่ 43,900 บาท

          ส่วนทางด้าน MacBook Pro with Retina Display รุ่น 15 นิ้ว ปรับไปใช้ซีพียู Intel รหัส Haswell ที่มาพร้อมกับจีพียู Iris Pro รหัส Crystalwell น้ำหนักมากกว่าเดิม 2.02 กก. ตัวเครื่องบาง 18 มม. รวมถึงปรับราคาลงอีก 200 เหรียญ หรือประมาณ 6,200 บาท ราคาเริ่มต้นที่ 66,900 บาท ทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายแล้วผ่าน Apple Store Online 

          ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวแอพฯ ตระกูล iLife ประกอบด้วย iPhoto, iMovie, Garage Band และ iWork ประกอบด้วย Pages, Keynote และ Numbers เวอร์ชั่นใหม่ทั้งหมดที่ถูกออกแบบให้มีทิศทางเดียวกับ iOS 7 รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกเพียบ และที่สำคัญแจกฟรีสำหรับผู้ซื้อ Mac และ iOS เครื่องใหม่ นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการ OS X 10.9 “Mavericks” ยังเปิดให้อัพเดทฟรีอีกด้วยสามารถอัพเกรดได้จาก Mountain Lion, Lion และ Snow Leopard 




สรุปข้อมูล พร้อมราคา iPad Air ไอแพด รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับ ดีไซน์ใหม่ และ ตัวเครื่องที่บาง เบา กว่าเดิม



ในที่สุด Apple ก็ได้ทำการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็น Generation ที่ 5 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น iPad Air ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบา และ บางลงกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว แน่นอนว่า iPad Air นั้นยังคงมาพร้อมกับชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน เราลองมาดูกันครับว่า iPad Air นั้นจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง และ จะต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากแค่ไหน

iPad Air มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ที่บาง และ เบากว่าเดิม




สำหรับ iPad Air นั้นถูกออกแบบใหม่ ให้มีดีไซน์ที่ค่อนข้างคล้างกับ iPad Mini ที่ออกมาก่อนหน้า ซึ่งโดยรวมนั้น iPad Air มีความบางมากกว่าเดิมถึง 20% (บางเพียง 7.5 มิลลิเมตร) และ มีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 28% เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ใช้จะรู้สึกถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน และ พกพาสะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมมากพอสมควร

iPad Air มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A7 แบบ 64 Bit



หลังจากที่ Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 5S ซึ่งใช้ชิปประมวลผล Apple A7 แบบ 64 Bit ไปแล้ว ล่าสุด Apple เองก็เลือกใช้ชิปตัวดังกล่าว บน iPad Air ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่า iPad Air จะมีความเร็วมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงเท่าตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้งาน ระบบปฏิบัติการ iOS 7 แบบ 64 Bit ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

iPad Air รองรับการเชื่อมต่อ 4G และ Wi-Fi ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม



สำหรับ iPad Air ยังคงถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นนั่นก็คือรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular ซึ่งแน่นอนว่า สามารถรองรับการใช้งาน 4G LTE รวมถึงยังมีการปรับปรุงในเรื่องของการใช้งานเครือข่าย Wi-Fi ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึงเท่าตัวเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณ)

iPad Air มาพร้อมกับ iOS 7 แบบ 64 Bit


แน่นอนว่าชิป Apple A7 นั้น เป็นชิปประมวลผลแบบ 64 Bit จึงทำให้สามารถใช้งาน iOS 7 ในเวอร์ชั่น 64 Bit ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งการใช้งาน ระบบปฏิบัติการ แบบ 64 Bit นั้นจะช่วยให้ทุกการใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

iPad Air มาพร้อมกับ Smart Cover แบบใหม่ ที่ปกป้องทั้งด้านหน้า และ หลัง



นอกจากนี้ Apple เองยังได้ส่ง Smart Cover แบบใหม่ ที่สามารถปกป้องตัวเครื่องทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ได้อย่างลงตัว และ สวยงาม

ราคา และ วันวางจำหน่ายของ iPad Air




สำหรับ iPad Air นั้น เปิดตัวที่ราคาเดิม นั่นก็คือ เริ่มต้นที่ $499 หรือประมาณ 15,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ จะเริ่มต้นที่ $629 หรือประมาณ 18,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ในกลุ่มประเทศแรก ส่วนในประเทศไทย ก็คาดว่าน่าจะตามมาหลังจากกลุ่มประเทศแรก ไม่นาน




Apple Special Event. October 22, 2013




Related

Technology 4643525912098666847

Post a Comment Default Comments

emo-but-icon

Follow Us

.

Recent

Hot in week

Popular

Connect Us

Recommend us on Google!
Instagram

Subscribe

Subscribe via RSS Feed If you enjoyed this article just click here, or subscribe to receive more great content just like it.
item