Google X - ห้องทดลองลับกับนวัตกรรมสู่อนาคตของ Google

Google X - ห้องทดลองลับกับนวัตกรรมสู่อนาคตของ Google

Google เป็นบริษัทไอทีที่เติบโตมาจากบริการออนไลน์อย่าง Search Engine จนประสบความสำเร็จกลายเป็น Search Engine ที่กินส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในโลกขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Google ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ทั้งที่คิดขึ้นเอง และที่ไปซื้อกิจการเขามา มีทั้งที่ประสบความสำเร็จ และที่ล้มเหลวจนกระทั่งต้องปิดตัวไปก็หลาย แต่ในจำนวนผลิตภัณฑ์ของ Google ตอนนี้ก็จะสังเกตได้ว่า Google ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่เรื่องบริการออนไลน์อีกต่อไป มีการก้าวไปทำ Gadget และผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้มากขึ้น รวมถึงมีการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "Google X" ใครที่ติดตามข่าว IT อาจจะพอคุ้นหูกับคำนี้บ้าง แต่วันนี้จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักให้ลึกขึ้นว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ และมีความสำคัญอย่างไรต่อ Google

"Google X" เป็นแผนก/โครงการลับของ Google (อันที่จริงก็ไม่ลับเท่าไหร่) ที่มีทำหน้าที่คิดค้น/วิจัย/ประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับ "อนาคต" หลายๆ ผลิตภัณฑ์เป็นความฝันในวัยเด็ก หรือสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ แต่ Google พยายามที่จะทำมันให้เกิดผลสำเร็จ ประมาณว่ามีกว่า 100 โครงการที่อยู่ใน Google X แต่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วที่ Google X กำลังดำเนินการอยู่นั้นมีอะไรบ้าง นอกเหนือจากบางผลิตภัณฑ์ที่มีการเปิดตัวออกสู่ภายนอกแล้วบ้าง

การก่อตั้งแผนก Google X ขึ้นมานั้น ส่วนหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นผลจากความ Geek ของเจ้าของ Google เอง ที่น่าจะชอบคิดค้นหรือผลิตอะไรใหม่ๆ แต่ขณะเดียวกันหากผลิตภัณฑ์จาก Google X ประสบความสำเร็จและสามารถนำออกมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ก็จะทำให้ Google กลายเป็นผู้นำนวัตกรรมในอนาคตได้ทันที และแน่นอนมันจะส่งผลดีให้ Google ยืนหยัดความยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ตลอดไป ไม่ให้ซ้ำรอยบริษัท IT อื่นๆ ที่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็พากันล้มหายตายจากกันไป

ปัจจุบัน Google X อยู่ภายใต้การดูแลโดยตรงของ Sergey Brin ซึ่งเป็น 1 ในผู้ก่อตั้ง Google ร่วมกับ Larry Page ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัท ความลึกลับของ Google X นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่กำลังวิจัยกันอยู่นั้น ยังมีสถานที่ตั้งห้องทดลองซึ่งปกปิดเป็นความลับ และอยู่แยกต่างหากจากสำนักงานของ Google เรียกว่าเฉพาะคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Google X ถึงจะรู้ว่าฐานลับของพวกเขาอยู่ตรงไหน และว่ากันว่าการจัดการภายในของ Google X นี่ลึกลับไม่แพ้ CIA เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบัน Google X จะไม่ใช่แผนกลับเสียทีเดียว เพราะการมีอยู่ของแผนกนี้เป็นที่รับรู้กัน แต่ผลิตภัณฑ์อะไรบ้างที่แผนกนี้กำลังวิจัยอยู่ก็ยังเป็นปริศนา และดูเหมือนผู้บริหารของ Google เองไม่ว่าจะ Page หรือ Brin เอง ต่างก็พยายามไม่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนกนี้มากนัก ส่วนหนึ่งอาจเพราะผลิตภัณฑ์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเหตุผลในเรื่องธุรกิจ เพราะหลายอย่างใน Google X หากเปิดเผยออกไปอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นได้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นอาจกังวลว่าเอาเงินไปถลุงกับโครงการที่แทบจะเป็นไปไม่ได้มากเกินไป

Google X จะเป็นนวัตกรรมใหม่หรือความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Google คงต้องรอดูต่อไปในอนาคต แต่อย่างน้อยก็สื่อถือความไม่ยอมหยุดนิ่งของ Google ได้เป็นอย่างดี และน่าตื่นเต้นไม่น้อยว่าหากผลิตภัณฑ์จากแผนกนี้เกิดสำเร็จขึ้นมา มันจะส่งผลต่อโลกมากเพียงไร ซึ่งจะว่าไปก็น่ากลัวนะ เพราะแค่ปัจจุบันลำพัง Google Search ก็มีอิทธิพลต่อวงการค้นหาและการศึกษาเป็นอย่างมาก หรือ Youtube เองก็มีความเกี่ยวพันกับวงการอุตสาหกรรมดนตรีอย่างมากเช่นกัน "ฤๅ Google กำลังคิดครองโลกจริงๆ"

Sergey Brin หัวหน้าโครงการ Google X

ต่อไปเป็นผลิตภัณฑ์จาก Google X ที่เปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว บางอย่างสามารถใช้ได้จริง และคาดว่าน่าจะแพร่หลายในอีกไม่นาน

Project Glass

Project Glass หรือ Google Glass

Project Glass หรือ Google Glass เป็นโครงการพัฒนาแว่นตาอัจริยะที่รวมความสามารถของ Smartphone และคอมพิวเตอร์เข้ามาไว้ด้วยกัน เป็นโครงการแรกๆ ที่ Google X เปิดเผยสู่สาธารณชนและแน่นอนมันได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แม้ว่าปัจจุบันยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา และยังไม่มีการวางขายอย่างเป็นทางการเลยก็ตาม (มีขายให้แค่เฉพาะกับนักพัฒนาเท่านั้น) รวมถึงอาจต้องรอเวลาอีกหลายปีกว่าราคาของ Google Glass จะลงมาอยู่ในระดับที่สามารถจับต้องได้ กระแสของ Google Glass ยังแรงจนถึงขนาดตอนนี้มีร้านค้ารวมถึงบ่อนการพนันหลายแห่งสั่งห้ามไม่ให้ใส่ Google Glass เข้ามาใช้บริการ รวมไปถึงยังเริ่มมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการใช้ Google Glass อีกด้วย ซึ่งไม่ช้าอาจนำไปสู่การจำเป็นต้องทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง

สำหรับเจ้า Google Glass นั้นมีลักษณะคล้ายแว่นทั่วไป แต่จะมีจอแสดงผลบริเวณตาขวา ซึ่งตาม Spec ที่ออกมา เจ้าแว่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และสามารถทำอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ ค้นหาด้วยเสียง วิดีโอคอล ใช้งานอินเทอร์เน็ต ฯลฯ รวมถึงใช้ระบบการส่งสัญญาเสียงเข้าสู่หูชั้นในผ่านกระโหลกศีรษะ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟัง ปัจจุบันหลายๆ บริษัทก็เริ่มพัฒนา App ให้รองรับการทำงานของเจ้าแว่นนี้ด้วยแล้วเช่นกัน

ใครอยากจะเป็นเจ้าของ Google Glass คงต้องอดใจรอกันสักหน่อย เห็นว่าประมาณปีหน้าน่าจะเริ่มวางขายได้ (แต่ราคายังสูงอยู่) อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวของ Google Glass ก็ทำให้มีความเคลื่อนไหวจากหลายๆ บริษัท IT เช่น Microsoft หรือ Samsung ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเองด้วยเช่นกัน

รถยนต์ไร้คนขับ

รถยนต์ไร้คนขับ จาก google

เราอาจเคยเห็นรถยนต์ที่สามารถวิ่งได้เองโดยเราไม่ต้องขับมามากแล้วในหนัง Sci-fi หรือหนังที่ว่าด้วยเรื่องโลกในอนาคต แต่ ณ ตอนนี้ รถยนต์แบบนั้นกำลังเกิดขึ้นจริง ทีมงานของ Google X นำโดยวิศวกร "Sebastian Thrun" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้คิดค้น Google Street View ได้เริ่มพัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับขึ้น โดยใช้ระบบซอฟแวร์ Artificial Intelligence ที่สามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบรถ ผ่านกล้อง 360 องศาที่ติดตั้งบนหลังคารถ โดยกล้องนี้จะทำงานร่วมกับเรดาร์และเซนเซอร์ตรวจจับระยะ ก่อนจะส่งให้ซอฟแวร์ประมวลผลและส่งการ โดยเลียนแบบการขับของคนจริงๆ ทั้งนี้จากโหมดให้รถขับด้วยตัวเองแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนมาเป็นคนขับแบบปกติได้ด้วย

ปัจจุบันโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ โดย Google ได้ร่วมมือกับ Toyota ดำเนินการวิ่งทดสอบครั้งแรกในรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2012 ก่อนที่ต่อมาจะได้รับอนุญาตให้ทดสอบที่รัฐฟลอริด้าและแคลิฟอร์เนียเพิ่มเติม โดยในระหว่างการทดสอบได้กำหนดให้มีคนนั่งไปด้วยอยู่ (แต่ไม่ขับ) ซึ่งการทดสอบที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเริ่มเห็นรถยนต์ไร้คนขับออกวิ่งสู่ถนนอย่างเป็นแพร่หลาย เพราะนอกเหนือจากรถที่ต้องทำให้เสถียรและปลอดอุบัติเหตุมากขึ้นแล้ว อุปสรรคสำคัญยังอยู่ที่ตัวกฎหมาย และบริษัทรถยนต์ที่บางส่วนมองว่า Google กำลังรุกตลาดของตน

Project Loon

Project Loon

เป็น Project ล่าสุดที่ Google X เปิดตัวต่อสาธารณชน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย Project Loon เป็นโครงการที่อาศัยบอลลูนในการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย โดยมีเป้าหมายเป็นที่ห่างไกลที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต

สำหรับตัวบอลลูนที่ใช้มีลักษณะใส ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และมีการติดตั้งเครื่องมือวัดระดับลม เพื่อให้สามารถกำหนดสถานที่ที่บอลลูนจะเดินไปตลอดจนความสูงได้อย่างถูกต้องแม่นยำ Google ยังเลือกปล่อยบอลลูนนี้ในระดับชั้นบรรยากาศสตาโตสสเฟียร์ (20 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล) ซึ่งสูงกว่าระดับเพดาบินของเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปเกือบสองเท่า เพื่อให้อยู่ในสภาพอากาศที่แปรปรวนน้อยที่สุด

Google กล่าวว่า สัญญาที่ได้จาก Project Loon นั้นมีความเร็วในระดับใกล้เคียงกับ 3G และใช้คลื่นความถี่เดียวกับ Wifi ซึ่งถ้าใครอยากจะใช้บริการก็ต้องมีเสาเฉพาะสำหรับเอาไว้ใช้รับสัญญาณโดยเฉพาะ ที่ Google X ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับ Project นี้ เพราะนี้ได้เริ่มทดสอบภาคสนามไปแล้วที่นิวซีแลนด์ ส่วนจะสำเร็จเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การใช้แพร่หลายแค่ไหน คงต้องรอดูกันต่อไป แต่หากโครงการนี้ประสบผลสำเร็จก็จะช่วยขยายโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เยอะทีเดียว และแน่นอนมันจะช่วยให้ Google ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวกับบริการออนไลน์อยู่เยอะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน

ต่อไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังเป็นแค่ข่าวลือ บางอย่าง Google X ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ บางอย่างก็ไม่ปฏิเสธแต่ไม่ยอมรับ ซึ่งอาจตีความได้ว่า Google X ไม่ได้ดำเนินการในผลิตภัณฑ์นั้นๆ จริงๆ หรือไม่ก็ตีความได้ว่ากำลังทำอยู่แต่ยังไม่สำเร็จ หรือทำแล้วแต่ยกเลิกไปแล้วก็ได้ เอาเป็นว่าฟังหูไว้หูแล้วกัน

Android @ Home

Android @ Home

เป็นการสร้างระบบควบคุมบ้านอัจฉริยะ  (Smart Home) โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Android เชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านเข้าด้วยกัน เช่น เครื่องชงกาแฟจะชงกาแฟไว้ให้เราอัตโนมัติเมื่อเรากลับถึงบ้าน เป็นต้น

ลิฟท์อวกาศ

ลิฟท์อวกาศ

 ใครชอบอ่านนิยายวิทยาศาสตร์คงจะคุ้นเคยกับแนวคิดนี้ดี กับแนวคิดการสร้างลิฟท์ที่สามารถใช้ขนส่งคนและสินค้าระหว่างพื้นดินกับอวกาศ แน่นอนมันยังไม่เกิดขึ้นจริง และยังยากที่จะเป็นได้จริงในเร็ววันนี้ แต่ก็มีรายงานจาก The New York Times ในปี 2011 ระบุว่า Google ได้ใส่โครงการนี้ไว้เป็น 1 ในโครงการในฝันของ Google X ที่จะเริ่มดำเนินการหาก "มีเทคโนโลยีที่รองรับที่ดีพอ"



Google Watch

Google Watch

 ไม่ใช่เพียงแค่ Apple ที่มีข่าวว่าจะทำ Smart Watch แต่ Google ก็มีข่าวว่ากำลังสร้างนาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองเช่นกัน หลังจากที่ปล่อยให้ Samsung ทำ Galaxy Gear ออกมาแล้ว โดยนาฬิกาของ Google แน่นอนว่าต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Android 



Adimab

Adimab

 Google ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท Adimab ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับวิจัยรักษาโรคต่างๆ โดยวิธีการกลืนตัวเซนเซอร์ขนาดเล็ก ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจหาต้นเหตุของโรคและปรับค่าสารแอนติบอดีในร่างกายคนให้กลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Google กำลังพัฒนาเทคโนโลยี Cellular Reprogramming สำหรับปรับแต่งเซลใหม่ให้ป้องกันและทำลายโรคร้ายได้



Makini Power

Makini Power

เมื่อกลางปี 2013 ที่ผ่านมา Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Makini Power บริษัทผลิตพลังงานลมโดยใช้กังหันติดกับว่าว เพื่อลอยตัวไปรับลมในที่สูง 250-600 เมตรเหนือพื้นดิน จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือรับลมได้สูงกว่าและมีต้นทุนที่น้อยกว่าเนื่องจากวัสดุน้อยกว่ากังหันลม Google แจ้งว่าการซื้อกิจการ Makini Power ครั้งนี้เพื่อนำไปร่วมกับโครงการ Google X แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่า เทคโนโลยีที่ได้นี้จะนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อะไรต่อไปในอนาคต

Source : Wikipedia , Research at Google